Skip to main content

ปั่น กับ ปั่น Go Bike!

MSU Bike Club

วันนี้มาอัพบล็อกพร้อมแนวคิดดีๆอีกหนึ่งอย่าง

นั่นก็คือการ ปั่นจักรยาน นั่นเอง

การปั่นจักรยานอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนรู้จัก แต่จะมีคนไทยซักกี่คนที่ปั่นจักรยานจริงๆจังๆในชีวิตประจำวัน วันนี้ผมจึงเอาเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับการปั่นจักรยานมาเขียนเป็น Diary ซะหน่อย

 

 

 

Car Free Sunday

Car Free Sunday

เป็นโครงหนึ่งของ กทม. ที่เริ่มหันมาใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยให้ทุกวันอาทิตย์เป็นวันหยุดการใช้รถยนต์ส่วนตัว หันมาใช้รถยนต์สาธารณะ การเดิน และการปั่นรถจักรยานแทน

 

ดร.เจษฎ์ โทณวณิก นักวิชาการทางกฎหมาย – “ทั้งหมดนี้เราไม่ได้คาดหวังถึงเป้าหมายว่าจะต้องมีกี่คนกี่เปอร์เซ็นต์เข้า ร่วมโครงการกับเรา ต้องหยุดใช้รถใช้ถนนจนเห็นผล นี่เป็นโครงการเพื่อกระตุ้นจิตสำนึกความร่วมมือในการร่วมกันลดใช้พลังงานให้ กับทุกคนในระยะยาวมากกว่า แต่เราก็หวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากภาครัฐและประชาชนทุกคน”

 

(ขอให้ดำเนินกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอด้วยเน้อ อย่าจัดเอาหน้าแล้วเงียบไปหล่ะครับ)

 

ที่มา http://new.measwatch.org/writing/504

 

 

Central storage system for bicycles

Central storage system for bicyclesCSSB เป็นรูปแบบของจักรยานที่ออกแบบมาสำหรับคนวัยทำงาน ออกแบบด้วยการทำให้ตัวเฟรมจักรยาน มีพื้นที่สำหรับการเก็บสัมภาระที่พอเหมาะ สะดวกสบายในการบรรจุและหยิบออก

 

ออกแบบโดย TATO เป็นบริษัทสายพันธุ์สวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งราคาค่อนข้างแพงสำหรับคนไทยครับ

 

ที่มา http://tato.li/cssb/

 

 

ทางจักรยาน

92389-1

เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมอยากเห็นมันเกิดขึ้นทั่วประเทศไทย เพราะส่วนมากโครงการเส้นทางจักรยาน จะไปทำที่ กทม.กันหมด แล้วจังหวัดอื่นก็ไม่ค่อยทำกัน

 

ทางจักรยานจึงเป็นเสมือน Creative Economy แนวใหม่ ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ของผู้บริหารประเทศ  กล้าผลักดันความคิดใหม่ ๆ ซึ่งมีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ และคุณภาพชีวิตของผู้คนโดยรวม

 

“ในวันที่ประชากรในเมือง เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนคนต้องอาศัยอยู่ในเขตชานเมืองและเดินทางเข้ามาทำงานในใจกลางเมือง จึงทำให้ไม่มีพื้นที่สำหรับรถยนต์อีกแล้ว ขณะที่การลงทุนเพื่อทำระบบขนส่งมวลชนก็ต้องใช้งบประมาณมหาศาล ทางออกที่ดีที่สุดก็คือการใช้จักรยาน”-สวัสดิวัฒน์ ทอมสัน

ที่มา http://www.greenworld.or.th/greenworld/local/1083

 

 

MSU Bike มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ก็ร่วมรณรงค์เหมือนกันนะ

nisitmsu54

 

สำหรับผมที่เรียน มมส. ก็ดีใจนะที่เห็น อธิการบดี หันมาใส่ใจกับการปั่นจักรยานมากขึ้น โดยได้มีโครงการให้นิสิตยืมจักรยานไปใช้ได้วันละ 1 บาท  แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ ผมอยากรณรงค์ให้สร้างทางจักรยานรอบๆมหาลัยด้วย เพราะถ้ามาปั่นบนถนนก็ไม่ค่อยปลอดภัย แถมปัญหาฝุ่นก็ยังไม่หมดไปจากมหาลัย ทำให้การปั่นจักรยานที่นี่ค่องข้างจะลำบาก

 

ที่มา http://www.web.msu.ac.th/student.php

 

 

สรุป

โดยส่วนตัวแล้วผมชอบการปั่นจักรยานมากๆ ปั่นมาตั้งแต่เด็กจนโต แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ของคนไทยคือไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับ“วัฒนธรรมจักรยาน”อย่างจริงจัง ทำให้ผู้คนไม่ใส่ใจการปั่นจักรยานมากนัก ถ้าเราทุกคนหันมาร่วมกระตุ้นสังคมไทยให้เกิดวัฒนธรรมจักรยานละก็ สังคมเราจะน่าอยู่มากขึ้นกว่านี้อีกหลายเท่าครับ

อย่าลืมกด กันด้วยนะครับ

 

ลาไปด้วยรายการสาระดีๆอีกหนึ่งรายการกับ หลงกรุง ตอน กรุงเทพฯเมืองจักรยาน

Comments

Popular posts from this blog

Maya Tutorial

Model : Maya ตอนที่ 1 Hi! สวัสดีครับ ชาว IT ทุกท่าน นี่เป็นบทความแรกของบล็อกเราครับ โดยหัวข้อแรกเป็นการปั้น Model 3D จากโปรแกรม Maya เป็นเทคนิคขั้นพื้นฐานง่ายๆ หวังว่าคงไม่ยากจนเกินไปนะคร้าบ หน้าตาโปรแกรม ครั้งนี้เป็นการ ปั้นมือถือ 1. ใช้เครื่องมือ Polygon cube ในแถบเครื่องมือ Polygons เพื่อสร้าง กล่องสี่เหลี่ยม 2. คลิกกล่องด้านข้าง หัวข้อ polyCube1 แล้วแก้ค่า Subdivisions Width,Height,Depth ให้เป็น 2 จะได้เส้นแบ่งกล่อง 3. ต่อไปจะเป็นการดัดกล่องให้เป็นรูปทรงตามที่เราต้องการ ในที่นี้เราจะดัดให้เป็นมือถือ ใช้เครื่องมือ Extrude จับยืดกล่อง แต่ก่อนอื่นต้องเข้าโหมด Face โดยการคลิกขวาเลือก Face เสร็จเราสามารถเลือกช่องที่ต้องการยืด แล้วกด Extrude จับยืดออกมาได้เลย 4. เมื่อรู้วิธียืดแล้ว ต่อไปก็หาต้นแบบมือถือมาใช้ เมื่อได้แบบก็ปั้นไปดูแบบไปได้เลย เริ่มโดยการจับกล่องยืดขึ้นเป็นแนวยาวด้วยเครื่องมือ Move tool ซึ่งเครื่องมือนี้สามารถใช้ยืดได้อย่างอิสระและยังใช้เคลื่อนย้ายวัตถุด้วย ด้วยการลากคลุม ด้านที่จะยืดแล้วเลือก Move tool แล้วจับยืดได้เลย เส้นไหนที่เราไม่ต้องการก็กดลบเส้นได้ด้วยการเปลี่ย

SuckSeed ชีวิตมันต้องลองซักซี๊ดนึง

มาอัพบล็อกอีกครั้ง หลังจากที่หายไปหาแรงบันดาลใจทำการ์ตูนมา คราวนี้ต้องขอยกหัวข้อให้กับ Suckseed ห่วยขั้นเทพ ปล. แน่นอนว่าต้องมีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของหนัง           ความรู้สึกของผมหลังจากดูหนังเรื่องนี้จบ มันเป็นอะไรที่ไม่ทันตั้งตัวมากๆ ทั้งที่หนังยาว 2.10 ชม. แต่กลับดูสนุกและไม่มีเบื่อ เริ่มตั้งแต่โลโก้บริษัทและผู้สนับสนุน ที่ทำได้เท่ห์และแปลก พอเข้าช่วงบทนำของหนังก็ได้พบกับเหล่าตัวห่วยรุ่นเล็ก ดูน่ารักและเข้ากันได้ดี เมื่อเข้าสู่ช่วงมัธยมความสนุก ความมันส์ก็เพิ่มขึ้น มีมุขฮาๆให้ได้ขำกันแทบทุกฉาก แถมด้วยเพลงต่างๆที่อัดแน่นเข้ามาพร้อมนักร้องตัวเป็นๆตามคำที่น้องเอิญว่า “เวลาฟังเพลงจะรู้สึกเหมือนมีเพื่อนมาร้องเพลงข้างๆ” พอเข้าช่วงหลังที่เริ่มรักและเริ่มเศร้าก็ทำได้ดีเกินคาด อาจจะด้วยหนังที่นำเสนอในมุมมองผู้ชาย ทำให้ผมอินมาก สรุป หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ผมดูแล้วไม่เสียดายเงิน และยกให้เป็นหนังไทยขึ้นหิ้งอีกหนึ่งเรื่อง ก็อย่างที่พี่เก้ง(โปรดิวเซอร์หนัง)บอกไว้ว่า ‎" SuckSeed เป็นหนังที่บันทึกเรื่องราวของวัยรุ่นในช่วง พ.ศ.นี้อย่างแท้จริง หนังเรื่องนี้จะยังคงทุ้มอยู่ในใจ " ต

Seed Bombs มาสร้างโลกสีเขียวกัน

กลับมาแล้ว วันนี้อ่านเจอเรื่องน่าสนใจเลยเอามาแชร์กัน Seed Bombs หรือ Seed Balls คือเรื่องหนึ่งที่สะดุดตาผมเป็นยิ่งเพราะ มันเป็นไอเดียที่น่าสนใจในการช่วยอนุรักษ์และปลูกต้นไม้แบบง่ายๆ เพียงแค่ซื้อหรือทำ Seed Bombs มาแล้วอยากให้ที่ตรงไหนมีต้นไม้สีเขียวงอกขึ้นมาเราก็โยนไปตรงนั้นเลย หลายคนอาจจะไม่รู้จักหรือไม่เข้าใจ วันนี้เราไปทำความรู้จักกับเจ้า Seed Bombs (ระเบิดสีเขียว)     Clay Seed Balls ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก Wikipedia กับ Ecosalon Clay Seed Balls หรือที่คนทั่วไปรู้จักในชื่อ "earth balls"  (nendo dango 粘土 団子 หรือ tsuchi dango 土 団子 ในภาษาญี่ปุ่น) เป็นผลก้อนดินเหนียว(Clay) ปั้นและผสมกับปุ๋ยหมัก(Compost) คลุกเมล็ดพืช พร้อมปลูกได้ทันที ซึ่งบางคนอาจจะทำขึ้นมาเองซึ่งก็ไม่ยาก แต่สำหรับบางคนที่ไม่มีเวลามาเตรียมของทำ ในเมืองลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ได้มีคนออกแบบทางเลือกใหม่ในการติดตั้ง เครื่องจำหน่าย ระเบิดสีเขียวหรือก้อนดินพร้อมเมล็ดพันธ์พืชนี้ขึ้นมา โดยใช้ชื่อเริ่มต้นว่า Greenaid ซึ่งออกเสียงพ้องกับ grenade ที่แปลว่าระเบิดนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันได้มีการติดตั้ง